นักปลูกมือใหม่ พลาดไม่ได้เลย อยากปลูกต้นไม้ แต่ดูยุ่งยากใช่ไหมล่ะ? GROWCERY ขออาสาพาทุกท่านไปทำความรู้จักพร้อม ๆ กันว่า การจะเริ่มปลูกต้นไม้ต้องรู้เรื่องใดบ้าง เตรียมตัวอย่างไร พร้อมเผยไต๋แบบไม่กั๊ก หยั่งลึกไปถึงรากถึงโคนกันเลยทีเดียว รับรองว่าเข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยากแน่นอน ขั้นตอนแรกเราต้องมาเตรียมอุปกรณ์กันก่อน... ขอเปิดซีรีส์ #นักปลูกมือใหม่ ณ บัดนี้!!

ประเดิม Ep.1 ด้วย #ภาชนะสำหรับเพาะปลูก

        กระถาง ถุงเพาะ ถาดเพาะ อะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด แล้วทีนี้เราจะเลือกใช้อะไรดีล่ะ...? วันนี้ GROWCERY จะมาพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับภาชนะเพาะปลูกเหล่านั้นกัน!! ถ้าพร้อมแล้ว... ไปกันเลย!

มาเริ่มกันที่...  "กระถาง"

        ภาชนะเพาะปลูกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด หาซื้อง่าย ใส่อะไรก็สวย แถมยังมีรูปร่าง รูปทรง และขนาดให้เลือกที่หลากหลายตามความต้องการนอกจากนี้กระถางยังทำจากวัสดุหลายประเภท เช่น พลาสติก เซรามิก ดินเผา เป็นต้น แต่ความแข็งแรงทนทานก็จะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำนั่นเอง ราคาก็มีหลายเรท ขึ้นอยู่กับความสวยงาม ความประณีต รวมถึงวัสดุที่ใช้ทำเช่นกัน
        เหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืชหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นพืชผักสวนครัว หรือไม้ดอกไม้ประดับทั้งนี้การเลือกใช้กระถางควรพิจารณาจากชนิดและขนาดของพืชด้วย เช่น พืชผักสวนครัวสามารถใช้กระถางตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะเมล็ดไปจนถึงขั้นตอนเก็บผลผลิตได้แต่ถ้าเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่อื่น ๆ อาจใช้เพาะต้นกล้าได้แค่ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเมื่อพืชโตขึ้นจำเป็นต้องย้ายไปปลูกลงดิน

        
ต่อไปเป็น... "ถุงเพาะ"

        อีกหนึ่ภาชนะสำหรับเพาะปลูก เช่นเดียวกับกระถาง มีน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่น หาซื้อง่าย ราคาย่อมเยาแต่มีข้อจำกัดเรื่องความทนทนไม่ค่อยนิยมนำกลับมาใช้ซ้ำและในด้านความสวยงาม และความหลากหลาย ในท้องตลาดมีให้เลือกซื้อถุงเพาะเพียงไม่สี ไม่กี่รูปแบบเท่านั้น
        เหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืชจำพวกอายุสั้น ได้แก่ ผักที่ลำต้นไม่ใหญ่มาก ที่สามารถรับประทานใบได้ทุกประเภท เช่น โหระพา แมงลัก คะน้า กะเพรา ตะไคร้ หรือผักมีผลก็ได้ เช่น พริก มะเขือม่วง มะเขือเทศ เป็นต้น เพราะผักจำพวกนี้โตเร็ว ให้ผลผลิตเร็ว ไม่เป็นโรคง่าย ถ้าให้ดีแนะนำปลูกพริก เพราะราคาดี ลงมือปลูกแค่ 3 เดือนก็ออกผลแล้ว

 
สุดท้ายคือ... "ถาดเพาะ"

        เป็นภาชนะสำหรับเพาะปลูกที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุด ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ถึงจะเลือกหยิบถาดเพาะมาใช้ในการเพาะปลูกถาดเพาะ 1 ใบ สามารถใช้เพาะปลูกพืชได้จำนวนมากหากเทียบกับกระถาง และถุงเพาะ นอกจากนี้ถาดเพาะยังมีความแข็งแรงเคลื่อนย้ายก็สะดวก และมีหลากหลายขนาดให้เลือก เมื่อใช้เสร็จแล้วยังสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก แต่จะต้องมีการล้างทำความสะอาดโดยใช้น้ำผสมคลอรีน 15% แล้วนำไปตากแดดให้แห้งเสียก่อน อีกทั้งราคามีความสมเหตุสมผล และถ้าเทียบกับการใช้งานถือว่าคุ้มค่าเกินราคาที่จ่ายไปเสียอีก ในแง่ของความสวยงาม ด้วยความที่ถาดเพาะมีการวางรูปแบบแถวของหลุมที่มีระยะห่างเท่ากัน ทำให้พืชที่เราปลูกเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบสวยงามแถมยังประหยัดพื้นที่ในการปลูกอีกด้วย
        เหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืชจำพวกผักสวนครัว ผักที่ลำต้นไม่ใหญ่มาก รวมถึงดอกไม้อีกด้วย ซึ่งถาดเพาะแต่ละขนาดก็จะเหมาะสมกับต้นพืชที่แตกต่างกันเช่น ถาดเพาะ 15 หลุมจะเหมาะกับการเพาะปลูกต้นพืชที่มีอายุในการเพาะปลูก 45 – 60 วันขึ้นไป หรือสามารถปลูกพืชที่มีรากขนาดใหญ่ต้องการดินในการเจริญเติบโตมาก เช่น อ้อย เป็นต้นส่วนถาดเพาะ 200 หลุมจะเหมาะกับการเพาะปลูกพืชที่มีก้านยาว อายุในการเจริญเติบโตของต้นพืชสั้นประมาณ 30 วัน เช่น คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง เพราะจะเห็นถึงความสม่ำเสมอของการเจริญเติบโตของต้นพืช

        ทั้งนี้การจะเลือกใช้กระถาง ถุงเพาะ หรือถาดเพาะ ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ และดุลยพินิจของผู้ปลูกเอง จากที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงไกด์ไลน์เท่านั้น!!

        ครั้งต่อไปในซีรีส์นักปลูกมือใหม่ ทีมงาน #GROWCERY จะมาพูดถึงเรื่องอะไรอีกนั้น กดติดตามรอไว้ได้เลย และฝากกดไลค์ กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ มีสาระต่อไปด้วยนะฮะ หากข้อมูลผิดพลาด หรือเพื่อน ๆ คนไหนมีประเด็นที่น่าสนใจสามารถคอมเมนต์พูดคุยกันใต้โพสต์ได้เล้ยยยยย แล้วเจอกัน EP. หน้าจ้า

#ปลูกต้นไม้ #ปลูกต้นไม้กัน #ปลูกต้นไม้จิ๋ว #ปลูกต้นไม้กัน #ปลูกต้นไม้ในบ้าน#ปลูกต้นไม้ในห้องนอน #ปลูกต้นไม้ในห้องน้ำ #ต้นไม้ #ต้นไม้มงคล #ต้นไม้ออนไลน์ #ต้นไม้ฟอกอากาศ #ต้นไม้ในบ้าน#ต้นไม้ฟอกอากาศ #ต้นไม้แต่งคอนโด #ต้นไม้ในห้องนอน #plant #plants #บ้านและสวน #อุปกรณ์การเกษตร